ที่มา : พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์ พิมพ์ครั้งที่ 31
[คลิก]
คำศัพท์ : ติรัจฉานกถา
ถ้อยคำอันขวางต่อทางนิพพาน, เรื่องราวที่ภิกษุไม่ควรนำมาเป็นข้อถกเถียงสนทนา โดยไม่เกี่ยวกับการพิจารณาสั่งสอนแนะนำทางธรรมอันทำให้คิดฟุ้งเฟ้อและพากันหลงเพลินเสียเวลา เสียกิจหน้าที่ที่พึงปฏิบัติตาม
ธรรม เช่น ราชกถา สนทนาเรื่องพระราชา ว่าราชาพระองค์นั้นโปรดของอย่างนั้น พระองค์นี้โปรดของอย่างนี้ โจรกถาสนทนาเรื่องโจร ว่าโจรหมู่นั้นปล้นที่นั่นได้เท่านั้นๆ ปล้นที่นี่ได้เท่านี้ๆ เป็นต้น; ทรงแสดงไว้ในที่หลายแห่ง ได้แก่ ราชกถา โจรกถา มหามัตตกถา (เรื่องมหาอำมาตย์) เสนากถา (เรื่องกองทัพ) ภยกถา ยุทธกถา อันนกถา (เรื่องข้าว) ปานกถา (เรื่องน้ำ) วัตถกถา (เรื่องผ้า) ยานกถา สยนกถา (เรื่องที่นอน) มาลากถา คันธกถา ญาติกถา คามกถา (เรื่องบ้าน) นิคมกถา (เรื่องนิคม คือเมืองย่อย) นครกถา ชนปทกถา อิตถีกถา (เรื่องสตรี) สูรกถา (เรื่องคนกล้าหาญ) สิขากถา (เรื่องตรอก) กุมภัฏฺฐานกถา(เรื่องท่าน้ำ) ปุพพเปตกถา (เรื่องคนที่ล่วงลับ) นานัตตกถา (เรื่องปลีกย่อยหลากหลาย) โลกักขายิกา (คำเล่าขานเรื่องโลก เช่นว่าโลกนี้ใครสร้าง) สมุททักขายิกา (คำเล่าขานเรื่องทะเล เช่นที่ว่าขุดขึ้นมาโดยเทพเจ้าชื่อสาคร) อิติวาภวกถา (เรื่องที่ถกเถียงกันวุ่นวายไปว่าเป็นอย่างนั้น-ไม่เป็นอย่างนี้ หรือว่าเป็นอย่างนี้-ไม่เป็นอย่างนั้น สุดโต่งกันไป เช่น ว่าเที่ยงแท้-ว่าขาดสูญ ว่าได้ว่าเสีย ว่าให้ปรนเปรอตามใจอยาก ว่าให้กดบีบเครียดเคร่ง), ทั้งหมดนี้นับได้ ๒๗ อย่าง แต่คัมภีร์นิทเทสระบุจำนวนไว้ด้วยว่า ๓๒ อย่าง (เช่น ขุ.ม.29/733/445) อรรถกถา (เช่น ม.อ.๓/๒๐๒/๑๖๕) บอกวิธีนับว่า ข้อสุดท้าย คืออิติภวาภวกถาแยกเป็น ๖ ข้อย่อย จึงเป็น ๓๒ (แต่ในมหานิทเทส ฉบับอักษรไทย มีปุริสกถาต่อจากอิตถีกถา รวมเป็น ๒๘ เมื่อแยกย่อยอย่างนี้ ก็เกินไป กลายเป็น ๓๓) ยิ่งกว่านั้น ในคัมภีร์ชั้นฎีกาบางแห่ง
วินย.ฏี.๓/๒๖๗/๓๗๙) อธิบายว่า อีกนัยหนึ่ง คำว่า “อิติ” มีความหมายว่ารวมทั้งเรื่องอื่นๆ ทำนองนี้ด้วย เช่นรวมเรื่อง ป่า เขา แม่น้ำ และเกาะ เข้าไป ก็เป็น ๓๖ อย่าง; ใน องฺ.ทสก.24/69/138 เมื่อตรัสสอนภิกษุทั้งหลายว่าไม่ควรสนทนาติรัจฉานกถาเหล่านี้แล้ว ก็ได้ทรงแสดงกถาวัตถุ ๑๐ ว่าเป็นเรื่องที่ควรสนทนากันสำหรับภิกษุทั้งหลาย
ดู กถาวัตถุ ๑๐