คำศัพท์ :
ธรรมทูต“ผู้นำส่งสาส์นแห่งธรรม” หรือ“ผู้ถือสาส์นส่งข่าวธรรม”, “ทูตของธรรม” หรือ “ทูตผู้นำธรรมไปสื่อสาร”,
ผู้สื่อสารแห่งธรรม, พระภิกษุผู้ได้รับมอบหมายหรือแต่งตั้งให้เดินทางไปเผยแผ่ประกาศธรรมในต่างถิ่นต่างแดน; ในช่วงต้นพุทธกาล เมื่อพระพุทธเจ้าทรงประกาศธรรม มีผู้ศรัทธาและรู้แจ้งธรรมเพิ่มขึ้นๆ อย่างรวดเร็ว ในไม่ช้าพระอรหันตสาวกก็มีจำนวนถึง ๖๐ รูป ครั้งนั้น ประมาณ ๕ เดือนหลังตรัสรู้ พระพุทธเจ้าได้ทรงส่งพระสาวก ๖๐ รูปแรกออกไปประกาศพระศาสนา ด้วยพระดำรัสที่เรามักนำเฉพาะตอนที่ถือกันว่าสำคัญมาก มาอ้างอิงอยู่เสมอ คือพุทธพจน์ที่ว่า
“จรถ ภิกฺขเว จาริกํ พหุชนหิตาย พหุชนสุขาย โลกานุกมฺปาย.” แปลว่า: ภิกษุทั้งหลาย พวกเธอจงจาริกไป เพื่อประโยชน์และความสุขของชนจำนวนมาก เพื่อเกื้อการุณย์แก่โลก (พระดำรัสเต็มว่า: ภิกษุทั้งหลายเราพ้นแล้ว จากบ่วงทั้งปวง ทั้งที่เป็นของทิพย์ ทั้งที่เป็นของมนุษย์ แม้พวกเธอก็พ้นแล้วจากบ่วงทั้งปวง ทั้งที่เป็นของทิพย์ ทั้งที่เป็นของมนุษย์ เธอทั้งหลายจงจาริกไป เพื่อประโยชน์และความสุขของชนจำนวนมาก เพื่อเกื้อการุณย์แก่โลก เพื่อประโยชน์ เพื่อเกื้อกูล เพื่อความสุข แก่ทวยเทพและมวลมนุษย์ พวกเธออย่าได้ไปรวมทางเดียวกันสองรูป จงแสดงธรรม อันงามในเบื้องต้น งามในท่ามกลาง งามในที่สุด จงประกาศพรหมจริยะ อันบริสุทธิ์บริบูรณ์สิ้นเชิง พร้อมทั้งอรรถทั้งพยัญชนะ สัตว์ทั้งหลายจำพวกที่มีธุลีคือกิเลสในจักษุน้อย มีอยู่ แต่เพราะไม่ได้ฟังธรรม ก็จะเสื่อมไปเสีย ผู้รู้ทั่วถึงธรรม จักมี, แม้เราก็จักไปยังตำบลอุรุเวลาเสนานิคม เพื่อแสดงธรรม, วินย.
4/32/39)
พระอรรถกถาจารย์นำพุทธพจน์ครั้งนี้ ไปประพันธ์เป็นคาถา ให้เห็นว่า พระพุทธเจ้าได้ทรงส่งพระอรหันตสาวกทั้งหมดนั้นไปทำงานพระธรรมทูต ดังความในคาถาเหล่านั้นว่า (พุทธ.อ.๒/๒๗): “ภิกษุทั้งหลาย พวกเธอ เมื่อจะบำเพ็ญประโยชน์ตนและประโยชน์ผู้อื่น จงแยกย้ายกันเที่ยวจาริกนำธรรมไปให้แก่มนุษย์ทั้งหลาย ตลอดทั่วแผ่นดินผืนนี้. เธอทั้งหลายอยู่ในที่สงัดวิเวกตามเขาเขินเนินวนา ทำหน้าที่ประกาศสัทธรรมแก่โลก สืบจากเรา สม่ำเสมอต่อเนื่องไป. ภิกษุทั้งหลาย พวกเธอเมื่อทำงานพระธรรมทูต จงเป็นผู้มีวัตรปฏิบัติอันงาม จงกล่าวไขคำสั่งสอนของเราแก่เหล่าประชาให้แจ่มแจ้ง เพื่อเห็นแก่สันติสุขของเขา. เธอทั้งหลายผู้ไร้อาสวกิเลส หาใครเทียบเทียมมิได้จงปิดประตูอบายเสียให้หมดสิ้น และจงเปิดประตู สู่ทางแห่งสวรรค์และโมกษธรรม. เธอทั้งหลาย ผู้เป็นแหล่งแห่งคุณความดีมีการุญธรรม เป็นต้น จงเพิ่มพูนปัญญาและศรัทธาแก่ชาวโลก ทั้งด้วยการเทศนาแก่เขาและการปฏิบัติตนเอง ให้พร้อมทุกประการ. คฤหัสถ์ทั้งหลาย อุปการะพวกเธออยู่เป็นนิตย์ด้วยอามิสทาน เธอทั้งหลายก็จงอุปการะตอบต่อพวกเขาด้วยธรรมทาน. เธอทั้งหลายผู้ได้ทำกิจที่ควรทำของตนเองเสร็จแล้ว จงบำเพ็ญประโยชน์แก่ผู้อื่น โดยแสดงสัทธรรมยกธงชัยของผู้แสวงธรรมขึ้นชูเถิด
เฉพาะคาถาที่มีคำว่า “ธรรมทูต” เป็นคำบาลี (ธมฺมทูเตยฺยํ = งานพระธรรมทูต) ดังนี้
กโรนฺตา ธมฺมทูเตยฺยํ วิขฺยาปยถ ภิกฺขโว
สนฺติอตฺถาย สตฺตานํ สุพฺพตา วจนํ มม.
คาถาที่พระอรรถกถาจารย์ประพันธ์ขึ้นเพื่อแสดงนัยแห่งพุทธพจน์นี้ นอกจากเป็นหลักฐานอันแสดงว่า “ธรรมทูต” เป็นคำที่ท่านใช้เรียกพระอรหันตสาวก๖๐ องค์ ที่พระพุทธเจ้าทรงส่งไปประกาศ
พระศาสนา โดยถือเป็นพระ “ธรรมทูต” ชุดแรก ในประวัติศาสตร์แห่งพระพุทธศาสนาแล้ว ก็เป็นคาถาซึ่งให้คติที่นำมาพ่วงประกอบเข้าได้กับพุทธพจน์ข้างต้น และพระคาถาโอวาทปาติโมกข์ เพื่อใช้เป็นหลักนำทางการทำงานของพระธรรมทูตทั้งหลายสืบต่อไป