คำศัพท์ :
พุทธประวัติประวัติของพระพุทธเจ้า; ลำดับกาลในพุทธประวัติตามที่ท่านแบ่งไว้ในอรรถกถา จัดได้เป็น ๓ ช่วงใหญ่ คือ
๑. ทูเรนิทาน เรื่องราวตั้งแต่เริ่มเป็นพระโพธิสัตว์ เสวยพระชาติในอดีต จนถึงอุบัติในสวรรค์ชั้นดุสิต
๒. อวิทูเรนิทาน เรื่องราวตั้งแต่จุติจากสวรรค์ชั้นดุสิต จนถึงตรัสรู้
๓. สันติเกนิทาน เรื่องราวตั้งแต่ตรัสรู้แล้ว จนเสด็จดับขันธปรินิพพาน ในส่วนของสันติเกนิทานนั้น ก็คือ
โพธิกาล อันได้แก่ระยะเวลานับแต่ตรัสรู้ไปจนสิ้นสุดพุทธกิจที่สืบเนื่องจากการตรัสรู้นั้น
โพธิกาล นั้น แยกย่อยเป็น ๓ ช่วงได้แก่ ๑. ปฐมโพธิกาล คือเวลาช่วงต้นแต่ตรัสรู้ ๒. มัชฌิมโพธิกาล คือเวลาช่วงกลางแต่ตรัสรู้ ๓. ปัจฉิมโพธิกาล คือเวลาช่วงปลายแต่ตรัสรู้
ตามหนังสือแบบเรียนนักธรรมกำหนดช่วงเวลาแห่ง โพธิกาล ๓ นั้น ได้แก่ ๑. ปฐมโพธิกาล คือต่อแต่ตรัสรู้จนถึงได้พระอัครสาวก ๒. มัชฌิมโพธิกาล คือตั้งแต่ประดิษฐานพระศาสนาในแคว้นมคธ จนถึงปลงพระชนมายุสังขาร ๓. ปัจฉิมโพธิกาล คือตั้งแต่ปลงพระชนมายุสังขาร จนถึงปรินิพพาน; นอกจากนั้น ท่านกล่าวถึงเรื่องราวที่เป็นมาในชมพูทวีป ก่อนถึงการตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า และเรียกเวลาช่วงนี้ว่า ปุริมกาล กับทั้งเล่าเหตุการณ์หลังพุทธปรินิพพานเช่น การถวายพระเพลิง และสังคายนาโดยเรียกเวลาช่วงนี้ว่า อปรกาล
โดยทั่วไปของอรรถกถา (เช่น วินย.๑/๑๒๔; ม.อ.๒/๗๓) กล่าวถึง ปฐมโพธิกาล เป็นสำคัญ ว่าเป็นระยะเวลา ๒๐ปีแรกแห่งพุทธกิจ ที่ยังมิได้ทรงมีพระนิพัทธุปัฏฐาก คือพระอุปัฏฐากประจำ (ต่อแต่นี้จึงมีพระอานนท์เป็นพระพุทธอุปัฏฐากประจำ), ยังมิได้ประทับอยู่ประจำที่ แต่เสด็จจาริกและทรงเปลี่ยนที่จำพรรษาไปเรื่อยๆ (ใน ๒๕ พรรษาต่อจากนี้ ประทับประจำ ณ เมืองสาวัตถีที่พระเชตวันของอนาถบิณฑิกเศรษฐีและบุพพารามของวิสาขามหาอุบาสิกา), ยังไม่ได้ทรงบัญญัติสิกขาบทแก่เหล่าภิกษุ ยังไม่มีการสวดอาณาปาติโมกข์แต่ทรงแสดงโอวาทปาติโมกข์ด้วยพระองค์เองตลอด ๒๐ ปีนั้น (ต่อจากนี้ ทรงบัญญัติสิกขาบท พระองค์ทรงเลิกแสดงโอวาทปาติโมกข์ แต่ทรงให้เหล่าภิกษุสวดอาณาปาติโมกข์สืบมา), ยังไม่ได้ทรงบัญญัติให้ภิกษุทั้งหลายต้องจำพรรษา (ต่อแต่นี้เหล่าภิกษุต้องอยู่ประจำที่ในฤดูฝน), ยังไม่ได้ทรงอนุญาตให้ภิกษุทั้งหลายกล่าวอนุโมทนาในหอฉันเป็นต้น (ต่อแต่นี้จึงมีพุทธานุญาตในเรื่องนี้) อย่างนี้เป็นต้น ต่อจาก ๒๐ ปีนี้จึงเป็น มัชฌิมโพธิกาล และ ปัจฉิมโพธิกาล โดยไม่ระบุระยะเวลาของ ๒ โพธิกาลนั้น
มีคัมภีร์รุ่นต่อมาบอกให้ชัดขึ้น แต่ยังมีมติแตกต่างกันบ้าง เช่น ฎีกาสารัตถทีปนีบอกว่า พระอาจารย์ธรรมบาลจัดแบ่ง ๓ ช่วงเท่ากัน ช่วงละ ๑๕ พรรษา รวมเป็น ๔๕ พรรษา (วินย.ฏี.๑/๖๙๒) และมีอรรถกถาหนึ่งสรุปให้ว่า จะนับ ๓ ช่วงๆ ละ ๑๕ ปีเท่ากัน ครบ ๔๕ พรรษาพอดีก็ได้ แต่บางแห่งนับ ๒๐ พรรษาแรกเป็นปฐมโพธิกาล ก็นับ ๑๕ ปีต่อมาเป็นมัชฌิมโพธิกาล และ ๑๐ ปีสุดท้ายเป็นปัจฉิมโพธิกาล (มิลินท.อ.๑/๓๙๘)