คำศัพท์ :
พุทธปรินิพพานการเสด็จดับขันธปรินิพพานของพระพุทธเจ้า, การตายองพระพุทธเจ้า
ลำดับเหตุการณ์ช่วงสุดท้ายว่า ในปีที่ ๔๕ แห่งพุทธกิจ พระพุทธเจ้าทรงจำพรรษาสุดท้ายที่เวฬุวคาม เมืองเวสาลี ในพรรษานั้น พระองค์ประชวรหนักแทบจะปรินิพพาน ทรงพระดำริว่าพระองค์ควรจะทรงบอกกล่าวเล่าความแก่ประดาอุปัฏฐากและแจ้งลาสงฆ์ก่อน จึงทรงระงับเวทนาไว้ ครั้นออกพรรษาแล้วก็เสด็จจาริกไปจนถึงเมืองสาวัตถีประทับอยู่ที่นั่นจนผ่านเหตุการณ์ปรินิพพานของพระสารีบุตร หลังจากโปรดให้สร้างธาตุเจดีย์ของพระธรรมเสนาบดีที่พระเชตวันแล้ว ก็เสด็จลงมายังเมืองราชคฤห์ ตรงกับช่วงเวลาที่พระมหาโมคคัลลานะปรินิพพาน ครั้นโปรดให้สร้างธาตุเจดีย์ของท่านไว้ ณ พระเวฬุวันแล้ว ก็เสด็จต่อขึ้นไปเวสาลีประทับที่กูฏาคารศาลา ป่ามหาวัน พอบรรจบครบเวลา ๔ เดือน นับแต่ออกพรรษาสุดท้ายที่เวฬุวคาม ก็ทรงปลงพระชนมายุสังขารที่ป่ามหาวันนั้น ว่าอีก ๓ เดือนข้างหน้าจะปรินิพพาน ครั้นใกล้ครบเวลา ๓ เดือน ในวันหนึ่ง ได้เสด็จเข้าไปบิณฑบาตในเมืองเวสาลีเป็นครั้งสุดท้าย เสด็จกลับจากบิณฑบาต ทอดพระเนตรเมืองเวสาลีเป็นปัจฉิมทัศน์โดยนาคาวโลก จากนั้นเสด็จออกจากเวสาลี ผ่านภัณฑคาม หัตถิคาม อัมพคาม ชัมพุคาม และโภคนคร ตามลำดับจนถึงเมืองปาวา ประทับพักแรมที่อัมพวัน ของนายจุนทะกัมมารบุตร แล้วในเช้าวันวิสาขบุณมี เสด็จพร้อมภิกษุสงฆ์ไปฉันภัตตาหารที่บ้านของนายจุนทะตามที่เขานิมนต์ไว้ นายจุนทะถวายสูกรมัททวะ หลังจากเสวยแล้ว ทรงอาพาธหนัก ลงพระโลหิต เสด็จต่อไปยังเมืองกุสินารา ผ่านแม่น้ำกกุธา ไปถึงแม่น้ำหิรัญญวดี เสด็จข้ามแม่น้ำนั้น เข้าไปประทับในสาลวโนทยานของกษัตริย์มัลละ เมืองกุสินารา บรรทมโดยสีหไสยา ภายใต้คู่ต้นสาละ และเสด็จดับขันธปรินิพพาน ในราตรีแห่งวันวิสาขบุณมี คือวันขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๖ เมื่อมีพระชนมายุครบ ๘๐ พรรษา
ดู พระพุทธเจ้า, นาคาวโลก, สูกรมัททวะ