คำศัพท์ :
ที่มา : พจนานุกรมพุทธศาสน์ ฉบับประมวลธรรม พิมพ์ครั้งที่ 34 [คลิก]
คำศัพท์ : สัปปุริสธรรม ๗

สัปปุริสธรรม 71 (ธรรมของสัตบุรุษ, ธรรมที่ทําใหเปนสัตบุรุษ, คุณสมบัติของ คนดี, ธรรมของผูดี — Sappurisa-dhamma : qualities of a good man; virtues of a gentleman)
1.ธัมมัญุตา (ความรูจักธรรม รู้หลัก หรือรูจักเหตุ คือ รูหลักความจริง รูหลักการ รูหลักเกณฑ รูกฎแหงธรรมดา รูกฎเกณฑแหงเหตุผล และรูหลักการที่จะทําใหเกิดผล เชน ภิกษุรูวา หลักธรรมขอนั้นๆ คืออะไร มีอะไรบาง พระมหากษัตริยทรงทราบวาหลักการปกครองตามราช ประเพณีเปนอยางไร มีอะไรบาง รูวาจะตองกระทําเหตุอันนี้ๆ หรือกระทําตามหลักการขอนี้ๆ จึง จะใหเกิดผลที่ตองการหรือบรรลุจุดหมายอันนั้นๆ เปนตน — Dhamma¤¤utà : knowing the law; knowing the cause)
2.อัตถัญุตา (ความรูจักอรรถ รู้ความมุงหมาย หรือรูจักผล คือ รูความหมาย รูความมุง หมาย รูประโยชนที่ประสงค รูจักผลที่จะเกิดขึ้นสืบเนื่องจากการกระทํา หรือความเปนไปตาม หลัก เชน รูวาหลักธรรมหรือภาษิตขอนั้นๆ มีความหมายวาอยางไร หลักนั้นๆ มีความมุงหมาย อยางไร กําหนดไวหรือพึงปฏิบัติเพื่อประสงคประโยชนอะไร การที่ตนกระทําอยูมีความมุงหมาย อยางไร เมื่อทําไปแลวจะบังเกิดผลอะไรบาง ดังนี้เปนตน — Attha¤¤utà : knowing the meaning; knowing the purpose; knowing the consequence)
3.อัตตัญุตา (ความรูจักตน คือรูวาเรานั้นวาโดยฐานะ ภาวะ เพศ กําลัง ความรู ความ สามารถ ความถนัด และคุณธรรม เปนตน บัดนี้ เทาไร อยางไร แลวประพฤติใหเหมาะสม และ รูที่จะแกไขปรับปรุงตอไป — Atta¤¤utà : knowing oneself) 4.มัตตัญุตา (ความรูจักประมาณ คือ ความพอดี เชน ภิกษุรูจักประมาณในการรับและ บริโภคปจจัยสี่ คฤหัสถรูจักประมาณในการใชจายโภคทรัพย พระมหากษัตริยรูจักประมาณใน การลงทัณฑอาชญาและในการเก็บภาษี เปนตน — Matta¤¤utà : moderation; knowing how to be temperate; sense of proportion)
5.กาลัญุตา (ความรูจักกาล คือ รูกาลเวลาอันเหมาะสม และระยะเวลาที่ควรหรือจะตองใชใน การประกอบกิจ ทําหนาที่การงาน หรือปฏิบัติการตางๆ เชน ใหตรงเวลา ใหเปนเวลา ใหทันเวลา ใหพอเวลาใหเหมาะเวลา เปนตน — Kàla¤¤utà : knowing the proper time; knowing how to choose and keep time) 6.ปริสัญุตา (ความรูจักบริษัท คือรูจักชุ และรูจักที่ประชุม รูกิริยาที่จะประพฤติตอชุมชน นั้นๆ วา ชุมชนนี้เมื่อเขาไปหา จะตองทํากิริยาอยางนี้ จะตองพูดอยางนี้ ชุมชนนี้ควรสงเคราะห อยางนี้ เปนตน — Parisa¤¤utà : knowing the assembly; knowing the society)
7.ปุคคลัญุตา หรือ ปุคคลปโรปรัญุตา (ความรูจักบุคคล คือ ความแตกตางแหงบุคคล วา โดยอัธยาศัย ความสามารถ และคุณธรรม เปนตน ใครๆ ยิ่งหรือหยอนอยางไร และรูที่จะปฏิบัติตอบุคคลนั้นๆ ดวยดี วาควรจะคบหรือไม จะใช จะตําหนิ ยกยอง และแนะนําสั่งสอน อยางไร เปนตน — Puggala¤¤utà : knowing the individual; knowing the different individuals)

ภิกษุผูประกอบดวยสัปปุริสธรรม 7 ขอนี้ ชื่อวา เปนผูประกอบดวยสังฆคุณครบ 9 แมพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจาและพระเจาจักรพรรดิ ก็ทรงประกอบดวยธรรมเหลานี้ ( ทานแสดงไวเฉพาะขอหลัก 5 ขอ คือ ขอ 1, 2, 4, 5, 6 องฺ.ปฺจก.22/131/166; A.III.148) จึงทรงยังธรรมจักรและอาณาจักรใหเปนไปดวยดี.