คำศัพท์ :
กรานกฐิน"ขึงไม้สะดึง" คือเอาผ้าที่จะเย็บเป็นจีวรเข้าขึงที่ไม้สะดึง เย็บเสร็จแล้วบอกแก่ภิกษุทั้งหลายผู้ร่วมใจกันยกผ้าให้ในนามของสงฆ์ เพื่ออนุโมทนาภิกษุผู้เย็บทำจีวรให้เสร็จและแจ้งความสำเร็จนั้นแก่สงฆ์ เรียกว่า
ผู้กราน พิธีทำในบัดนี้คือ ภิกษุซึ่งจำพรรษาครบสามเดือนในวัดเดียวกัน (ต้องมีจำนวน ๕ รูปขึ้นไป) ประชุมกันในอุโบสถ พร้อมใจกันยกผ้ากฐินให้แก่ภิกษุรูปหนึ่งในหมู่พวกเธอ ภิกษุที่ได้รับผ้านั้น ทำกิจ ตั้งแต่ ซัก กะ ตัด เย็บ ย้อมให้เสร็จในวันนั้น ทำพินทุกัปปะ อธิษฐานเป็นจีวรครองผืนใดผืนหนึ่งในไตรจีวร แล้วบอกแก่สงฆ์ผู้ยกผ้าให้เพื่ออนุโมทนา เรียกว่า กรานกฐิน
ถ้าผ้ากฐินเป็นจีวรสำเร็จรูป (เรียกว่าผ้ากฐินมีบริกรรมสำเร็จแล้ว) กิจที่จะต้อง ซัก กะ ตัด เย็บ ย้อม ก็ไม่มี ภิกษุที่ได้รับมอบให้แล้ว จึงทำพินทุกัปปะ อธิษฐานเป็นจีวรครองผืนใดผืนหนึ่งในไตรจีวร กรานแล้วแจ้งแก่สงฆ์เพื่ออนุโมทนาต่อเนื่องไปเลย
กราน เป็นภาษาเขมร แปลว่า "ขึง" คือทำให้ตึง กฐิน เป็นภาษาบาลี แปลว่า "ไม้สะดึง" กรานกฐิน ก็คือ "ขึงไม้สะดึง" คือเอาผ้าที่จะเย็บเป็นจีวรเข้าขึงที่ไม้สะดึง แล้วเย็บจนทำเป็นจีวรสำเร็จ พร้อมที่จะครองคือใช้ห่มต่อไป; เขียน กราลกฐิน บ้างก็มี
ในสังฆกรรมแห่งการกรานกฐินนั้น ภิกษุผู้สวดกรรมวาจาให้ผ้ากฐิน ว่าดังนี้ (วินย.5/96/136)
"สุณาตุ เม ภนฺเต สงฺโฆ. อิทํ สงฺฆสฺส กฐินทุสฺสํ อุปฺปนฺนํ. ยทิ สงฺฆสฺส ปตฺตกลฺลํ, สงฺโฆ อิมํ กฐินทุสฺสํ อิตฺถนฺนามสฺส ภิกฺขุโน ทเทยฺย กฐินํ อตฺถริตุํ. เอสา ญตฺติ.
"สุณาตุ เม ภนฺเต สงฺโฆ. อิทํ สงฺฆสฺส กฐินทุสฺสํ อุปฺปนฺนํ สงฺโฆ อิมํ กฐินทุสฺสํ อิตฺถนฺนามสฺส ภิกฺขุโน เทติ กฐินํ อตฺถริตุํ. ยสฺสายสฺมโต ขมติอิมสฺส กฐินทุสฺสสฺส อิตฺถนฺนามสฺส ภิกฺขุโน ทานํ กฐินํ อตฺถริตุํ, โสตุณฺหสฺส ยสฺส นกฺขมติ, โส ภาเสยฺย.
"ทินฺนํ อิทํ สงฺเฆน กฐินทุสฺสํ อิตฺถนฺนามสฺส ภิกฺขุโน กฐินํ อตฺถริตุํ. ขมติ สงฺฆสฺส, ตสฺมา ตุณฺหี. เอวเมตํ ธารยามิ."
คำว่า "อิตฺถนฺนามสฺส" เปลี่ยนตามนามของภิกษุผู้ได้รับมอบผ้ากฐิน เช่น เป็น "วีรกสฺส" และถ้าเธอแก่กว่าผู้สวดกรรมวาจา พึงเติม "อายสฺมโต" ข้างหน้า และตัด "ภิกฺขุโน" ออกเสีย เป็น "อายสฺมโต วีรกสฺส"
ภิกษุกรานกฐินด้วยจีวรอย่างใด (นิยมกรานด้วยสังฆาฏิ) พึงปัจจุทธรณ์จีวรอย่างนั้นผืนเดิมแล้วอธิษฐานจีวรอย่างนั้นผืนใหม่ แล้วพร้อมกับจับหรือลูบผ้านั้น เปล่งวาจาว่า "อิมาย สงฺฆาฏิยา กฐินํ อตฺถรามิ." (ข้าพเจ้ากรานกฐินด้วยผ้าสังฆาฏิผืนนี้) [ถ้าเป็นอุตตราสงค์ พึงว่า "อิมินา อุตฺตราสงฺเคน กฐินํ อตฺถรามิ." ถ้าเป็นอันตรวาสก พึงว่า "อิมินา อนฺตรวาสเกน กฐินํ อตฺถรามิ."]
จากนั้น เธอเข้าไปหาสงฆ์ประณมมือกล่าวคำแจ้งแก่สงฆ์ว่า "อตฺถตํ ภนฺเต สงฺฆสฺส กฐินํ, ธมฺมิโก กฐิตฺถาโร, อนุโมทถ." ครั้นแล้วเหล่าภิกษุผู้ได้มอบให้ผ้ากฐินแก่เธอ ก็กล่าวอนุโมทนาว่า "อตฺถตํ อาวุโส สงฺฆสฺส กฐินํ, ธมฺมิโก กฐินตฺถาโร, อนุโมทาม." (ถ้าแต่ละรูปว่าของตนๆ ก็เปลี่ยน "อนุโมทาม" เป็น "อนุโมทามิ" ส่วน "อาสุโส" และ "ภนฺเต" ก็ว่าตามฐานะของตนๆ)
ดู กฐิน