ไปยังหน้า : |
• พระนารทะ: นี่แน่ะท่านปวิฏฐ์ โดยไม่อาศัยศรัทธาเลย ไม่อาศัยความถูกใจ การเล่าเรียนมา การตรึกตรองตามแนวเหตุผล หรือความเข้ากันได้กับทิฏฐิของตน ผมรู้ ผมเห็น ซึ่งความข้อนี้ว่า เพราะชาตินิโรธ ชรามรณะจึงนิโรธ, เพราะอวิชชานิโรธ สังขารจึงนิโรธ;...ผมรู้ ผมเห็นความข้อนี้ว่า นิโรธแห่งภพคือนิพพาน”
พระปวิฏฐ์: ถ้าอย่างนั้น ท่านนารทะก็เป็นพระอรหันตขีณาสพสิ.
พระนารทะ: ข้อที่ว่านิโรธแห่งภพคือนิพพานนั้น ผมมองเห็นเป็นอย่างดี ด้วยสัมมาปัญญา ตามความเป็นจริง แต่กระนั้น ผมก็มิใช่เป็นพระอรหันตขีณาสพ; เปรียบเหมือนมีบ่อน้ำในทางกันดาร แต่ที่นั้นไม่มีเชือก ไม่มีภาชนะสำหรับตักน้ำ ครานั้น บุรุษหนึ่ง ถูกอากาศแล้งเผา กรำร้อน มาถึง ทั้งเหนื่อย ทั้งหิว ทั้งกระหาย เขามองลงไปในบ่อน้ำนั้น ทั้งที่มีความรู้อยู่ว่า นั่นน้ำ แต่จะสัมผัสด้วยกาย ก็มิได้ นี่ฉันใด ข้อที่ว่านิโรธแห่งภพเป็นนิพพาน ผมก็มองเห็นเป็นอย่างดีด้วยสัมมาปัญญา ตามความเป็นจริง แต่ผมก็มิได้เป็นพระอรหันตขีณาสพ 987