ไปยังหน้า : |
เทาที่กลาวมานี้ไดแสดงใหเห็นวา ความเปนโสดาบันเปนขั้นตอนสําคัญของจุดหมายแหงการปฏิบัติธรรม ที่พระพุทธเจาไดทรงสอนย้ําไวเปนอยางมาก และเมื่อพิจารณาถึงสภาพปจจุบันก็เปนหลักการซึ่งเหมาะสมที่จะยกขึ้นมาตั้งเปนเปาหมายของการดําเนินชีวิตและชักชวนกันใหหันมาใสใจ
นอกจากความเปนโสดาบันแลว เรื่องสืบเนื่องที่ไดย้ําใหหันไปสนใจกันใหมากดวย ก็คือ ธรรม ๕ อยางอันไดแก ศรัทธา ศีล สุตะ จาคะ และปัญญา ธรรมทั้ง ๕ นี้ก็เชนเดียวกับความเปนโสดาบัน คือ ตามหลักการเดิม ก็เปนธรรมที่พระพุทธเจาตรัสย้ํามากอยูแลว และในแงของสภาพปจจุบัน ก็มีความเหมาะสมที่จะนํามาใชปฏิบัติดวยเชนเดียวกัน
ขอดีอยางหนึ่งของธรรม ๕ นั้น ก็คือ เปนคุณสมบัติที่พัฒนาขึ้นไปไดตามลําดับ ทั้งกอนเปนโสดาบันและเมื่อเปนโสดาบันแลว
สังคมปจจุบัน ตองการศรัทธาที่ประกอบดวยเหตุผล ไมงมงาย ตองการความมั่นใจในความเปนมนุษยชนิดที่สัมพันธกับจุดมุงหมายที่ดีงาม
สังคมปจจุบัน ตองการศีลธรรม คือธรรมขั้นศีล ที่ประพฤติปฏิบัติกันดวยความเขาใจความมุงหมายและซื่อตรงตอหลักการอยางแทจริง ซึ่งจะเปนเครื่องควบคุมที่ธํารงรักษาสังคมเอาไวได
สังคมปจจุบัน เจริญดวยสุตะ เผยแพรและปลอยปูดขอมูลขาวสารกันมากมายลนเหลือ แตดูเหมือนวาสุตะเหลานั้นจะทําใหมนุษยสับสน และกลายเปนตัวการกอปญหาตางๆ มากมายยิ่งขึ้น สังคมจึงตองการสุตะในอริยธรรม ที่จะมาเผยสาระ และชี้จุดคลายปม ใหชัด ตรง และพอดีที่จะนําชีวิตและสังคมใหดําเนินไปในทางที่ถูกตอง