ไปยังหน้า : |
ควรกลาวย้ำถึงความสําคัญของสัมมาทิฏฐิ หรือองคธรรมฝายปญญา ไวเปนพิเศษวา ระบบการปฏิบัติ ธรรมของพระพุทธศาสนา ไมวาจะมองในแงของมรรค หรือไตรสิกขาก็ตาม ลวนเริ่มตนดวยปญญา และจบลง ดวยปญญา ที่ทําการใหสําเร็จลุถึงจุดหมาย
สําหรับไตรสิกขา แมจะมีศีลเปนขอแรก แตความจริงก็ตองอาศัยพื้นฐานความเขาใจเกี่ยวกับสิ่งที่จะลง มือปฏิบัติเปนตนทุนไวกอน ซึ่งไดแกมีสัมมาทิฏฐินั่นเอง แตเพราะความรูความเขาใจเบื้องตนนี้ เปนเพียงการรูวา ทางไหนตนจะพึงไป และตั้งตนที่ไหนเทานั้น จึงไมจัดเปนขั้นตอนของระบบการฝกอบรมชวงกวางของไตรสิกขา
เมื่อผูปฏิบัติมีความรูความเขาใจหรือความเชื่อถูกตองเปนพื้นฐานตนทุนอยูแลว ก็เริ่มการฝกอบรมที่ ความประพฤติทางกาย วาจา และอาชีวะ (ศีล) กอน เมื่อศีลพรอมดีแลว ก็ฝกขั้นประณีตขึ้นมาถึงการฝกอบรมจิต (สมาธิ) จนถึงขั้นสุดทายคือเจริญปญญาใหแกกลาจนพนจากอวิชชา
ความจริง ปญญานั้นเจริญงอกงามขึ้นเรื่อยๆ ตลอดกระบวนการฝกอบรม เบื้องตน ความรูความเขาใจ ที่เรียกวาสัมมาทิฏฐิ อาจเปนเพียงความเชื่อตามเหตุผลกอน แตในระหวางการฝกอบรมตอๆ มา ความรูความเขาใจหรือความเชื่อที่มีไวเปนทุนเดิมนั้น ก็จะคอยๆ เจริญเพิ่มพูนและชัดเจนยิ่งขึ้นโดยลําดับ ดวยอาศัยการรูจัก คิด การไตรตรอง สอบสวนพิจารณา การรูเห็นประจักษผลการปฏิบัติที่เกิดมีในระบบการฝกอบรม และการที่ อินทรียตางๆ แกกลายิ่งขึ้น จนในที่สุดปญญาก็จะเจริญถึงขั้นรูเขาใจสิ่งทั้งหลายตามความเปนจริง ถึงขั้นหลุดพน บรรลุนิพพานได คือความรูความเขาใจ หรือความเชื่อตามเหตุผล กลายมาเปนการรูการเห็นดวยปญญาของตนจริงๆ โดยสมบูรณ ดังบาลีวา